คลอดปุ๊บ ก็มีน้ำนมปั๊บ ดื่มต้องดื่มน้ำหัวปลี Mommy Booster

 

เพิ่มน้ำนมทันใจใครๆก็ดื่ม น้ำหัวปลีที่คุณหมอ ดารา เซเลบ และคุณแม่ส่วนใหญ่วางใจ

ปลอดภัย ได้ผล ดื่มง่าย ไม่อ้วน นมเยอะ รีวิวแน่น!

ตามไปอ่านรีวิวจากคุณแม่ลูกน้ำที่ทานน้ำหัวปลี Mommy Booster บำรุงมาตั้งแต่ตั้งครรภ์เลยค่ะ

# เขียนจากใจคนที่วางแผนเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และได้ดื่มน้ำหัวปลีของ MommyBooster จริงๆ #

 

เราชื่อลูกน้ำค่ะ เราเป็นคนหนึ่งที่อยากเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะรู้ว่าประโยชน์ของนมแม่นั้นมากมายขนาดไหน ก็เลยพยายามหาข้อมูลตั้งแต่ก่อนท้อง เพื่อที่จะได้เลี้ยงลูกให้ได้ด้วยนมแม่ อะไรที่เค้าว่าดี เรากิน เราทำหมด

เราวางแผนจะให้ลูกดื่มนมแม่ตั้งแต่เกิดจนถึง 3 ปีเลย เราได้แหล่งอ้างอิงจากองค์การอนามัยโลกและยูนิเซฟว่าการให้ลูกดื่มนมแม่เหมือนเป็นวัคซีนหยดแรกสำหรับเด็ก ตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 เดือนควรให้ลูกดื่มนมแม่อย่างเดียวเลย หลังจากนั้นให้ดื่มต่อเนื่องไปถึง 3 ปี ควบคู่กับการทานอาหารที่เหมาะสมตามวัย

รู้งี้แล้ว เราก็รีบบำรุงตั้งแต่ตั้งท้องเลยค่ะ โดยเราเน้นแค่วิธีธรรมชาติเท่านั้น เรากลัวการกินยา เพราะกลัวว่าลูกจะได้รับสารเคมีอันตรายจากน้ำนม เริ่มแรกเราหาข้อมูลเลยค่ะว่ากินอะไรช่วยเรียกน้ำนมบ้าง ทุกๆ มื้อเราจะพยายามกินอาหารที่มีส่วนผสมของผักผลไม้เรียกน้ำนม แบบกระตุ้นเต็มที่เลยค่ะ เราแอบลิสต์มาให้แล้วค่ะว่ามีผักผลไม้ชนิดไหนบ้าง และทำเมนูอะไรได้บ้าง สามารถเอาไปทำตามกันได้ค่ะ เพราะได้ผลดี น้ำนมพุ่งปรี๊ดตั้งแต่คลอดเลยค่ะ

  • หัวปลี : แกงเลียงหัวปลี ยำหัวปลีกุ้งสด ทอดมันหัวปลี

  • ขิง : ยำปลาทูใส่ขิง ปลีผัดขิง ไก่ผัดขิง มันต้มน้ำขิง โจ๊กใส่ขิง

  • ใบกระเพรา : ใส่แกงเลียง ผัดกะเพรา

  • กุยช่าย : ผัดดอกกุยช่ายกับเนื้อสัตว์ หรือกินใบสดแกล้มกับอาหาร

  • ใบแมงลัก : ใส่แกงเลียง แกงป่า กินสดแกล้มกับขนมจีน

  • มะละกอ : กินสุก หรือแกงส้ม

  • ฟักทอง : นึ่ง แกงบวด ผัดใส่ไข่ ใส่ไข่เจียว แกงเลียง

  • สูตรคำนวณ ปริมาณน้ำนมสำหรับลูกอายุ 0 – 30 วัน

(น้ำหนักลูก (กิโลกรัม) x 150) / 30 = ปริมาณนมที่ต้องได้รับใน 1 วัน (ออนซ์)

ตัวอย่าง ลูกน้ำหนัก 3 กก. (3 x 150) / 30 = 15 ออนซ์ และควรแบ่งออกเป็น 6 – 8 มื้อ/วัน

  • สูตรคำนวณ ปริมาณน้ำนมสำหรับลูกอายุ 1 – 5 เดือน

(น้ำหนักลูก (กิโลกรัม) x 120) / 30 = ปริมาณนมที่ต้องได้รับใน 1 วัน (ออนซ์)

ตัวอย่าง ลูกน้ำหนัก 4 กก. (4 x 120) / 30 = 16 ออนซ์ และควรแบ่งออกเป็น 6 – 8 มื้อ/วัน

  • สูตรคำนวณปริมาณน้ำนมสำหรับลูกอายุ 7 – 12 เดือน

(น้ำหนักลูก (กิโลกรัม) x 110) / 30 = ปริมาณนมที่ต้องได้รับใน 1 วัน (ออนซ์)

ตัวอย่าง ลูกน้ำหนัก 7 กก. (7 x 110) / 30 = 26 ออนซ์ และควรแบ่งออกเป็น 4 – 5 มื้อ/วัน

ซึ่งพอเราคำนวณดูแล้ว พบว่าน้ำนมเราอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม รู้แบบนี้ก็หายกังวลไปเปราะนึงค่ะ เพราะเรามีน้ำนมให้ลูกกินเพียงพอแบบไม่มีปัญหาอะไรเลย

แต่ก็มีเพื่อนคุณแม่หลายๆ ท่านที่มีปริมาณน้ำนมน้อย ไม่เพียงพอ บางคนก็มีปัญหาท่อน้ำนมอุดตัน พอได้เห็นได้ฟังเพื่อนแม่ๆ ก็แอบกลัวอยู่ลึกๆ เหมือนกันค่ะว่าเราจะประสบปัญหาอย่างเดียวกันมั้ย เราเลยหาข้อมูลเพื่อจะได้ระวังไว้ ซึ่งเหตุผลที่ส่งผลให้ปริมาณน้ำนมน้อยมีตามนี้เลยค่ะ

1.ความเครียดหลังคลอด

ภาวะความเครียดอาจเกิดขึ้นได้กับแม่มือใหม่ทุกคน ไม่ว่าจะเป็น วิธีการเลี้ยงลูก กลัวน้ำนมมาน้อยไม่เพียงพอต่อลูก ฯลฯ ซึ่งความเครียดที่เกิดขึ้นนั้นก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้น้ำนมหด แห้ง หายได้ เพราะถ้ายิ่งเครียดก็จะส่งผลต่อการหลั่งฮอร์โมนโปรแลคตินที่กระตุ้นให้เซลล์ผลิตน้ำนมออกมาลดลง ทำให้น้ำนมไหลออกมาน้อยเกินไปได้ ในระยะแรกหลังคลอดจึงเป็นช่วงที่คุณแม่ต้องมีการปรับตัวมากพอสมควร

 

2.ใช้ยาคุมกำเนิดในช่วง 6 เดือนแรกหลังคลอด

สำหรับคุณแม่ที่ใช้ยาคุมกำเนิดในระหว่างให้นมลูกหลังคลอดอาจส่งผลให้น้ำนมและคุณภาพของน้ำนมคุณแม่ลดน้อยลงได้ เนื่องจากยาคุมกำเนิดโดยทั่วไปจะมีส่วนประกอบของฮอร์โมน 2 ชนิดรวมกัน คือเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน ซึ่งฮอร์โมนเอสโตรเจนจะกระตุ้นให้มีการเติบโตของท่อ และระบบการหลั่งเก็บนม หากรับประทานยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนตัวนี้มากก็จะไปออกฤทธิ์ยับยั้งการสร้างน้ำนม ทำให้น้ำนมลดน้อยลงได้ 

 

3.การใช้ยาบางชนิด

ยกตัวอย่างเช่น ยาแก้แพ้จำพวก คลอเฟนิรามีน ที่ใช้ลดน้ำมูก แก้คัดจมูก ถึงแม้จะสามารถใช้ได้ในขณะให้นมลูก แต่หากใช้ต่อเนื่องหลายๆวันก็มีผลทำให้น้ำนมลดได้ แต่หลังจากงดใช้ยาก็จะสามารถผลิตน้ำนมกลับมาเหมือนเดิม ดังนั้นหากคุณแม่จำเป็นต้องใช้ก็ไม่ควรใช้อย่างพร่ำเพรื่อ และควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้ง

 

4.เคยผ่าตัดเต้านมมาก่อน

คุณแม่บางท่านที่เคยผ่าตัดลดขนาดของเต้านมมาก่อน อาจมีผลลดปริมาณน้ำนมได้ แต่ในกรณีที่เคยผ่าตัดเสริมอก หากเป็นการผ่าตัดที่ไม่ตัดท่อน้ำนมหรือกระเปาะน้ำนม เป็นการลงมีดตามแนวรัศมีวงกลม ก็จะไม่มีปัญหากับปริมาณการผลิตน้ำนม สามารถกระตุ้นให้ลูกดูดนมแม่เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำนมได้ปกติ

 

5.กินอาหารที่ไม่มีประโยชน์

การบริโภคอาหารและการดื่มน้ำของแม่ก็มีส่วนต่อปริมาณน้ำนมด้วย คุณแม่ที่กินอาหารน้อยหรือตั้งใจลดน้ำหนักทันทีหลังคลอด อาจเสี่ยงต่อการขาดโปรตีนและพลังงาน ส่งผลให้มีการผลิตน้ำนมลดลง ดังนั้นในช่วงให้นมลูก คุณแม่ควรกินอาหารเพิ่มขึ้นกว่าตอนก่อนตั้งครรภ์ 500 กิโลแคลอรี่ต่อวันและดื่มน้ำอย่างน้อย 1-2 ลิตรต่อวัน เนื่องจากองค์ประกอบของนมแม่กว่า 80% คือน้ำ หากดื่มน้ำไม่เพียงพอก็จะส่งผลต่อการผลิตน้ำนมโดยตรงได้

 

6.ลูกไม่ยอมดูดเต้า

การที่ลูกไม่ยอมเข้าเต้า ไม่ดูดนมแม่ อาจมีสาเหตุได้หลายอย่าง เช่น ลูกดูดเต้าไม่เป็น แม่เอาลูกเข้าเต้าผิดวิธี อาการเจ็บป่วยทำให้ลูกรู้สึกไม่สบายตัวจนไม่อยากที่จะขยับปากดูดนม หรือหัวนมแม่บอด ทำให้ลูกดูดนมจากเต้าแม่ลำบาก แม้ออกแรงดูดน้ำนมแม่ก็ยังไม่ออกมา ดังนั้นคุณแม่ต้องคอยสังเกตว่าลูกทำไมไม่ยอมเข้าเต้า หรือใช้เวลาในการดูดน้อยเกินไป อาจจะส่งผลให้น้ำนมไม่ได้รับการกระตุ้นอย่างเพียงพอและเหมาะสม ทำให้น้ำนมแม่มาน้อยลงได้

 

7.ใช้จุกนมหลอก

แม้ว่าจุกนมหลอกสำหรับทารกจะมีข้อดีที่ช่วยลดการเล่นน้ำลาย ดูดนิ้ว ช่วยทำให้เบบี๋อารมณ์ดี ลดอาการงอแงได้ แต่การใช้จุกนมหลอกนั้นเหมาะสำหรับทารกวัย 2–12 เดือนเท่านั้น และไม่ควรใช้กับทารกแรกเกิด เพราะเป็นช่วงที่ทารกเริ่มรับประทานนมแม่ใหม่ๆ หากให้ลูกดูดจุกนมหลอกควบคู่กันหรือปล่อยให้ลูกดูดบ่อยๆ อาจทำให้ทารกเกิดความสับสนระหว่างหัวนมของคุณแม่กับจุกหลอกจนไม่ยอมกลับไปดูดนมแม่ตามที่ควรจะเป็น เมื่อลูกปฏิเสธเต้าแม่ ก็จะทำให้ร่างกายผลิตน้ำนมลดลงได้

 

8.การเสริมนมผง

การเสริมนมผสมจากขวดนมทำให้ลูกติดการดูดจุกนมมากกว่าดูดนมจากเต้า ทำให้ลูกได้ดูดนมแม่ไม่บ่อยพอ และเป็นผลทำให้ร่างกายคุณแม่ไม่ผลิตน้ำนมและน้ำนมลดน้อยลง นมแม่ไม่ไหลออกตามความต้องการของลูกน้อย ทำให้ลูกหงุดหงิด ร้องไห้เมื่อดูดนมแม่ แม่จึงจำเป็นต้องกลับมาให้นมผสมเพิ่มมากขึ้นอีก ซึ่งสุดท้ายก็อาจจะต้องหยุดให้นมแม่ไปในที่สุดได้

 

9.ลูกน้อยไม่ตื่นมาดูดนมตอนกลางคืน

เมื่อทารกหิวเมื่อไหร่ คุณแม่สามารถให้ลูกดูดนมได้บ่อยตามความต้องการของลูกหรือถ้าหากว่าลูกหลับนานกว่า 3 ชั่วโมงก็ควรปลุกลูกขึ้นมาดูดนมด้วย เพราะจะช่วยให้ฮอร์โมนโปรแลกตินที่หลั่งออกมามากในเวลากลางคืนสูงขึ้น ซึ่งช่วยให้การสร้างน้ำนมเป็นไปด้วยดี ลูกน้อยจะได้รับน้ำนมอย่างเพียงพอและยังช่วยป้องกันปัญหาเต้านมคัดและน้ำนมลดลงได้

 

10.ท่อน้ำนมอุดตัน

ทำให้น้ำนมน้อย ไหลได้ไม่ดี และเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเต้านมอักเสบได้ ซึ่งเกิดจากการที่ไม่ได้ให้ลูกดูดนมแม่บ่อย หรือจำกัดเวลาในการดูดนมของลูก หรือลูกน้อยดูดนมไม่เกลี้ยงเต้า ทำให้มีน้ำนมค้างอยู่ท่อ หรือปริมาณน้ำนมที่มากเกินไปและระบายออกได้ไม่สมดุลกับปริมาณน้ำนมที่ผลิต เมื่อขังไปนานๆ เข้าท่อน้ำนมก็เต็มแน่นจนมีอาการปวด บวม แดง ทำให้เนื้อเยื่อบวม อักเสบ และการผลิตน้ำนมหยุดชะงักได้

นอกจากนี้เรายังได้หาข้อมูลวิธีธรรมชาติที่จะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่ไว้ด้วยค่ะ ซึ่งมี 6 วิธี ตามนี้เลยค่ะ

1.ให้นมแม่โดยเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

การเริ่มให้นมแม่ช้าจะทำให้เต้านมผลิตน้ำนมได้น้อยลง แนะนำให้คุณแม่อุ้มลูกน้อยสัมผัสในอ้อมอกหลังคลอดทันที ลูกจะดูดนมแม่จากเต้าภายในชั่วโมงแรกหลังคลอดหรือภายใน 30 นาที หลังคลอด ช่วยกระตุ้นให้ต่อมน้ำนมของแม่สร้างน้ำนมให้มาเร็ว มามาก และไหลเร็ว เพราะถ้าเริ่มช้าน้ำนมก็จะยิ่งมาช้าตามไปด้วย และยังเสริมความรักสายสัมพันธ์ตั้งแต่แรกเห็นของแม่กับลูกได้ด้วย

.

2.ให้ลูกดูดนมแม่จากเต้าบ่อยๆ

ควรให้ลูกดูดนมทุก 2 ชั่วโมงหรือเมื่อลูกต้องการ โดยเฉพาะในช่วง 2-3 วันแรกหลังคลอด สำคัญที่สุดที่คุณแม่ต้องให้ลูกดูดนมบ่อยๆ ทุก 1-2 ชั่วโมง เพื่อกระตุ้นให้เต้านมสร้างน้ำนมตลอดเวลา อย่าปล่อยให้เกิดอาการคัดเต้านมและให้ลูกดูดนมออกทันที เพื่อช่วยระบายน้ำนม และสร้างน้ำนมใหม่เรื่อยๆ

.

3.หมั่นตรวจสอบการดูดนมของลูกน้อย

ให้ดูให้แน่ใจว่าลูกน้อยงับดูดหัวนมในตำแหน่งที่เหมาะสมและสังเกตว่าลูกน้อยสำลักนมหรือไม่ เพราะท่าให้นมก็เป็นสิ่งสำคัญ ท่าที่ถูกต้อง คือ ปากลูกต้องเปิดกว้าง อมหัวนมและลานนม ให้กระชับและลึกจนเหงือกกดบนลานหัวนม คางลูกแนบเต้า ปลายจมูกชิดหรือแตะเต้านม ลิ้นของลูกอยู่ใต้ลานหัวนม ทำให้ลูกสามารถดูดแรงเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ซึ่งหากแม่ให้นมลูกในท่าที่ถูกต้องนี้ได้ ก็จะทำให้ลดการเจ็บหัวนมได้อีกด้วย

.

4.คุณแม่ต้องตื่นตัวกับปัญหาการให้นมแม่

การที่ลูกน้อยดูดนมข้างเดียวเป็นครั้งคราวเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าเกิดขึ้นเป็นประจํา น้ำนมของคุณแม่ก็จะผลิตลดลง ดังนั้นควรให้ลูกดูดนมทั้ง 2 ข้าง หรือคุณแม่อาจจำเป็นต้องปั๊มเต้านมอีกข้างเพื่อลดแรงกดดัน และป้องกันปริมาณน้ำนมของคุณแม่ลดลงจนกว่าลูกน้อยจะเริ่มดูดนมมากขึ้นในแต่ละครั้ง นอกจากนี้คุณแม่ควรใส่ใจกับการให้นมสม่ำเสมอ ไม่ข้ามการให้นมแม่ ควรปั๊มนมทุกครั้งที่คุณแม่พลาดการให้นมแม่ช่วงใดช่วงหนี่งเพื่อช่วยปกป้องปริมาณน้ำนมลดลง

.

5.หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และนิโคติน

การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปานกลางถึงมากสามารถลดการผลิตนมได้ และการสูบบุหรี่ก็มีผลเช่นเดียวกัน จงจำไว้เสมอว่าทุกอย่างที่คุณแม่กิน ดื่มและสูดดมล้วนมีผลกับนํ้านมของคุณแม่ได้ ดังนั้นให้หลีกเลี่ยงบุหรี่ แอลกอฮอล์และคาเฟอีนในช่วงที่ให้นมลูกจะดีที่สุด

.

6.เลือกทานอาหารที่ช่วยเพิ่มน้ำนมแม่

มีการศึกษาวิจัยทางการแพทย์ ยืนยันว่าการรับประทานอาหารของคุณแม่มีผลโดยตรงกับการผลิตน้ำนม โดยแนะนำให้เน้นอาหารที่มีผักช่วยเรียกน้ำนมเป็นส่วนประกอบเช่น ฟักทอง ขิง และโดยเฉพาะหัวปลี ฯลฯ นอกจากนี้ยังควรดื่มน้ำ หรือเครื่องดื่มอื่นเยอะๆ ไม่ว่าจะน้ำเปล่า น้ำผลไม้ นม หรือซุป ให้ได้วันละ 3 ลิตร เพื่อช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนมและทดแทนน้ำที่สูญเสียไป

ซึ่งเราโชคดีมากๆ ค่ะที่ไม่เจอปัญหาน้ำนมน้อยเลย ตอนนี้ลูกก็จะ 2 ขวบแล้ว แต่คุณหมอบอกว่าไม่ได้เป็นเรื่องของโชคอย่างเดียวค่ะ อย่างหนึ่งที่สำคัญมากๆ เลย คือ เราเตรียมตัวมาดีตั้งแต่ตั้งท้องแล้ว และยังบำรุงต่อเนื่องแม้คลอดแล้ว ซึ่งเราคิดว่าการดื่มน้ำหัวปลีนี่แหละที่ช่วยได้เยอะเลย เพราะเราแทบไม่มีเวลาบำรุงด้วยอย่างอื่นเลย มีน้ำหัวปลีของ Mommy Booster นี่แหละที่ดื่มบ่อยที่สุดแล้ว

—— “หัวปลี” ช่วยเพิ่มน้ำนมให้กับคุณแม่หลังคลอดได้จริงหรอ ? ——

ในการศึกษาสารสกัดจากหัวปลีพบว่า หัวปลีมีสารซาโปนิน และแทนิน ที่ช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนโปรแลคตินในเลือด กระตุ้นต่อมน้ำนมให้มีการสร้างน้ำนม จึงสรุปได้ว่า น้ำหัวปลีช่วยเพิ่มน้ำนมให้กับคุณแม่หลังคลอดได้จริง

นอกจากนี้หัวปลียังอุดมไปด้วยสารอาหาร วิตามินและแร่ธาตุต่างๆ อีกมากมาย ได้แก่ โปรตีน แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส วิตามิน A วิตามิน B1 วิตามิน C และ ยังมี Saponins ที่ช่วยลดคอเลสเตอรอล เสริมสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันเซลล์มะเร็งได้อีกด้วย

นอกจากนี้ ด้วยความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ผลงานวิจัยที่พิสูจน์แล้วว่าหัวปลีพันธุ์

ที่ Mommy Booster เลือกใช้ มีสารสำคัญในเพิ่มน้ำนมมากที่สุดเมื่อเทียบกับหัวปลีพันธุ์อื่นๆ งานวิจัยนี้ได้รับคัดเลือกให้

ไปโชว์ในงาน PACCON2020 : Chemistry for Catalyzing sustainability and prosperity วันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ 2563

ที่เมืองทองธานีโดย ร่วมสนับสนุนโครงการวิจัยสารสำคัญในหัวปลีไทยที่ส่งผลต่อการเพิ่มน้ำนมโดยกับภาควิชาเคมี

คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้ มี รศ.ดร สุภกร บุญยืน เป็นที่ปรึกษาโครงการ

และ อ.ดร. วรรณฑณี สิทธิวงษ์ เป็นหัวหน้าโครงการวิจัย ร่วมด้วยนักศึกษา น.ส. อันดาพิสุทธิ์ ศัยยกุล

และ น.ส. ไพลิน เพชรไทย เป็นผู้ช่วยกันวิเคราะห์วิจัย จนสำเร็จลุล่วงใช้เวลานานกว่า 8 เดือน

จากผลงานวิจัยพบว่าหัวปลีพันธุ์ที่ Mommy Booster เลือกใช้มีสารสำคัญในการเพิ่มน้ำนมสูงสุดเมื่อเทียบกับหัวปลีพันธุ์อื่นๆในประเทศไทย จึงวางใจได้ว่าทุกครั้งที่ดื่มน้ำหัวปลี Mommy Booster เพื่อการบำรุงน้ำนม ไม่ใช่เป็นการดื่มน้ำหัวปลีธรรมดา

แต่ได้คัดสรรมาแล้วว่าจะได้รับประโยชน์ในการเพิ่มน้ำนมอย่างเต็มที่ จากวัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่างดี

รีวิวจากคุณแม่ที่ทานแล้วได้ผลหลายหมื่น ยืนยันแล้วว่า

•น้ำนมเพิ่มขึ้นทันใจ
•น้ำนมมาไวหลังคลอดเมื่อดื่มบำรุงตั้งแต่ตั้งครรภ์
•น้ำนมข้นขึ้นอย่างมีคุณภาพ
•ดื่มแล้วไม่อ้วนเพียง 30Kcal/ขวด
•คุณแม่เบาหวานทานได้น้ำตาลไม่ขึ้น
•ได้รับตราสัญลักษณ์รับรอง “ทางเลือกสุขภาพ” ว่าปริมาณแคลอรี่ น้ำตาลและโซเดียม อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม

ดีต่อสุขภาพของคุณแม่สามารถทานได้ตั้งแต่ระหว่างท้องเพื่อเป็นการบำรุงครรภ์และเพิ่มน้ำนม

หลายคนอาจสงสัยเรื่องรสชาติ ว่าต้องกล้ำกลืนฝืนกินมั้ย ขอตอบตรงนี้เลยค่ะว่ารสชาติ “อร่อยมาก” ไม่พอแค่นั้น ยังมีให้เลือกถึง 5 รสชาติ

  1. น้ำหัวปลีน้ำผึ้งตะไคร้ (รสชาติหัวปลีเข้มข้นหวานน้อย)

  2. หัวปลีแครนเบอร์รี่ (รสชาติคล้ายน้ำผลไม้)

  3. หัวปลีพรุนขิง (รสเปรี้ยวอมหวาน)

  4. หัวปลีอัญชันทับทิม (รสชาติคล้ายชามะนาว)

5.น้ำอินทผลัมแครนเบอรี่ทับทิม อันนี้น่าจะถูกใจคนที่ไม่ชอบรสหัวปลี ตัวอินทผลัมเองก็ช่วยบำรุงน้ำนมได้ดีเช่นกันค่ะ

กินได้ไม่เบื่อแน่นอนค่ะ หมดกังวลว่าจะไม่มีน้ำนมให้ลูกได้เลยค่ะ แถมที่โดดเด่นแตกต่างจากแบรนด์อื่นอย่างชัดเจน คือ Mommy Booster เค้ามีงานวิจับจากธรรมศาสตร์รับรองว่าพันธุ์หัวปลีที่เลือกใช้มีสารสำคุญในการเพิ่มน้ำนมสูงสุด

ของเริศๆ อย่างนี้ เราขอแนะนำคุณแม่ทุกคนค่ะ เริ่มทานได้ตั้งแต่ตั้งครรภ์เลย และไม่หวาน คุณแม่เบาหวานก็สามารถทานได้ เตรียมตัวไว้เนิ่นๆแบบเราด้วย Mommy Booster รับรองว่าลูกมีน้ำนมกินอิ่มแปล้แน่นอนค่ะ

คุกกี้และเค้กเพิ่มน้ำนมก็มีนะคะ สั่งเลย !

ล่าสุด Mommy Booster ได้รับรางวัล The Best Business & Product แห่งปี 2022 จากชมรมพัฒนาองค์กรและธุรกิจระดับสากล และยังได้รับรางวัล Amarin Baby Kids Awards 2022 ในสาขาBest Breastfeeding Supplement

ซึ่งเป็นผลโหวตจากคุณแม่ทั่วประเทศไทย นอกจากนี้ยังได้รับการจัดอันดับเป็นน้ำหัวปลีอันดับ 1 ยอดนิยมจาก

“ 10 น้ำหัวปลียี่ห้อไหนดี ปี 2022” โดยเวบไซต์ My Best ด้วยนะคะ

คุณภาพคับขวดแบบนี้ไม่ลองไม่ได้แล้วล่ะค่ะ ทักสั่งซื้อหรือสอบถามได้เลย